สำหรับผู้ที่ต้องการเลือกซื้อเครื่องประดับเงิน หรือซื้อมาแล้ว หากแต่ไม่รู้ว่าชิ้นงานที่คุณกำลังสนใจอยู่เป็น ‘เงินแท้’ ตามที่ผู้ขายกล่าวอ้างหรือไม่ วันนี้เราจึงนำวิธีตรวจสอบมาฝากคุณกันค่ะ

92.5

ก่อนอื่นพยายามมองหาตัวเลข 92.5 ที่ตอกอยู่บนชิ้นงานก่อนเลย เพราะถ้าเป็นเงินแท้จะต้องมีสัญลักษณ์นี้ปรากฏอยู่ ถ้าตรวจแล้วพบว่าไม่มีสามารถฟันธงได้เลยว่าเป็นปลอม แต่ถึงจะมีแต่ก็อย่าพึ่งวางใจว่าถ้ามีแล้วจะเป็นเงินจริง ของแท้แน่นอน ต้องพิจารณาปัจจัยอื่นๆร่วมด้วย

วัดด้วยน้ำหนักและความหนา

โดยเงินแท้จะมีเนื้ออ่อนมาก เพราะฉะนั้นจึงไม่นิยมทำให้บางมากจนเกินไป เนื่องจากจะทำให้รูปทรงชิ้นงานเกิดบิดเบี้ยวง่ายนอกจากนี้ด้วยความขอบที่บางมันก็จะเกิดความคม จนสามารถบาดมือผู้สวมใส่ได้ เพราะถ้างานกำไล , หัวเข็มขัด , แหวน ซึ่งมีลักษณะขอบบางคม โดยงานพวกนี้จะทำจาก แผ่นอลูมิเนียม , สแตนเลส , ตะกั่ว , แปะตั๊ง , ทองขาว โดยสีของงานพวกนี้จะมีสีเหมือนเงินทั้งหมด หากแต่น้ำหนักก็ยังไม่เท่าเงิน นอกจากนี้เงินแท้ก็จะมีความหนาแน่นสูงหนักกว่าและอ่อนตัวกว่ามาก ถ้าลองจับแล้วสัมผัสได้ถึงความบาง หรือแข็งมากจนง้างไม่ไป เครื่องประดับเหล่านั้นไม่ใช่เงินแท้แน่นอน

ตรวจสอบด้วยแม่เหล็ก

ถ้าเครื่องประดับชิ้นนั้นเป็นเงินแท้แม่เหล็กก็จะดูดไม่ติด แต่ถ้าหากมีเหล็กรวมทั้งโลหะชนิดอื่นใดๆ สอดไส้อยู่ภายในเนื้อเงิน ให้ลองใช้แม่เหล็กแรงสูงดูดดู ถ้าชิ้นงานดูดติดหรือวิ่งเข้าหาแม่เหล็ก ก็แปลว่ามีโลหะเหล็กผสมอยู่มาก และนี่ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยตรวจสอบเบื้องต้นได้ แต่มีข้อแม้ คือ ต้องใช้แม่เหล็กแรงสูงถึงจะเห็นผลได้อย่างชัดเจน นอกจากนี้ถ้าชิ้นงานมีขนาดเล็กให้วางลงบนโฟม แล้วนำไปลอยในอ่างน้ำ หลังจากนั้นให้นำแม่เหล็กไปจ่อถ้าเป็นเงินแท้ก็จะไม่เกิดอะไรขึ้น แต่ถ้าหากมีเหล็กผสมอยู่ด้วยโฟมก็จะวิ่งเข้าหาแม่เหล็กทันที

เผาไฟวิธีตรวจสอบสุดคลาสสิก

วิธีไฟเผาเป็นหนึ่งในวิธีการแบบดั้งเดิม โดยการใช้ไฟเผาเครื่องประดับ จัดเป็นวิธีตรวจสอบที่มีมาตั้งแต่สมัยโบราณ ทั้งทองหรือเงิน ก็สามารถใช้ไฟเผาเพื่อตรวจสอบได้ทั้งนั้น โดยเงินแท้ , ทองแท้จะไม่ได้รับความเสียหายจากการเผาใดๆ สามารถทำการทดสอบได้ง่ายๆ ด้วยการใช้ไฟเผาเครื่องประดับให้แดง แล้วสังเกตความเปลี่ยนแปลง โดยถ้าเป็นเงินแท้ 92.5 เมื่อเผาไฟไปแล้วจะไม่เปลี่ยนสี แต่ถ้ามีสารประกอบอื่นๆผสมเข้าไปมากขนาดหนัก เครื่องเงินก็จะเกิดเขม่าสีดำเกาะอยู่